บราเดอร์ เชื่อตลาดรวมพรินเตอร์ปีนี้โต 10% หลังเศรษฐกิจส่งสัญญาณฟื้นตัว องค์กรแห่ลงทุน แถมได้โปรเจ็กต์ สพฐ.หนุนตลาดโตยอดจัดซื้อนับหมื่นเครื่อง วางกลยุทธ์เจาะตลาดองค์กร ขยายตลาดต่างจังหวัด เสริมโปรดักต์พรินเตอร์พกพา เจาะกลุ่มลูกค้าพิมพ์ใบเสร็จ
นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการขายและการตลาด ของบริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชียล จำกัด เปิดเผยว่าตลาดเครื่องพิมพ์ หรือพรินเตอร์ปีนี้มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างน้อย 10% โดยมองว่าภาวะเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้น ทำให้เอกชนที่มีการชะลอการลงทุนมา 2 ปี เริ่มมีการลงทุน ขณะเดียวกันปีนี้ยังมีโครงการจัดซื้อคอมพิวเตอร์โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. ซึ่งมีการจัดซื้อในส่วนของเครื่องพิมพ์เลเซอร์พรินเตอร์ด้วย โดยในเฟสแรกนั้นมีตัวเลขการจัดซื้อระดับหมื่นเครื่อง
ส่วนแนวโน้มการแข่งขันด้านราคานั้นหลายค่ายชะลอการแข่งขันด้านราคาลงมา เพราะเดิมผู้ผลิตขายเครื่องราคาต่ำๆ แต่มีกำไรจากการขายหมึก อย่างไรก็ตามพฤติกรรมของกลุ่มผู้นิยมซื้อเครื่องราคาประหยัดนั้นมีการนำเครื่องพิมพ์ไปดัดแปลง ใส่ต่อแท็งก์หมึกเข้ามา ซึ่งช่วยให้พิมพ์มากกว่าและมีราคาประหยัดกว่า
ส่วนกลยุทธ์การทำตลาดปีนี้นั้นยังคงมุ่งตลาดลูกค้าองค์กรเป็นหลัก เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันสงครามราคา โดยเครื่องพรินเตอร์ที่มีราคาต่ำสุดของบราเดอร์ คือ 2,500 บาท ขณะที่คู่แข่งราคาต่ำกว่า 1,000 บาท ส่วนเครื่องพรินเตอร์ที่มุ่งเน้นทำตลาดมีราคาประมาณ 3,000-4,000 บาท นอกจากนี้บริษัทจะมุ่งขยายการทำตลาดไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น เนื่องจากเป็นตลาดที่ยังมีความต้องการเครื่องพิมพ์ หรือ พรินเตอร์อีกเป็นจำนวนมาก ขณะที่ตลาดในกรุงเทพฯเริ่มอิ่มตัว
โดยปีนี้บริษัทมีความพร้อมช่องทางจำหน่ายมากขึ้นหลังจากปีที่ผ่านมาได้ขยายช่องทางจำหน่ายเพิ่มจาก 150 ราย เป็น 250 ราย ครอบคลุม 76 จังหวัดทั่วประเทศ เช่นเดียวกับศูนย์บริการที่มีการขยายศูนย์บริการ 147 แห่ง ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ ทั้งนี้คาดว่าปีนี้สัดส่วนยอดขาย 30% มาจากกรุงเทพฯ และ สัดส่วน 70% มาจากต่างจังหวัด จากเดิมมีสัดส่วนยอดขายตลาดกรุงเทพฯประมาณ 40% และต่างจังหวัดประมาณ 60%
ส่วนกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์นั้นมองว่าจะมุ่งเน้นพรินเตอร์ประหยัดพลังงาน และหมึกพิมพ์มากขึ้น โดยปีที่ผ่านมาได้เปิดตัวเครื่องพิมพ์ แอลอีดีพรินเตอร์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีประหยัดพลังงานและหมึกพิมพ์ นอกจากนี้ยังมีแผนนำผลิตภัณฑ์ เครื่องพิมพ์แบบพกพา หรือ เอ็มพอยต์ ที่รองรับการสื่อสารไร้สาย มีแบตเตอรี่ในตัว เข้ามานำเสนอกับตลาดลูกค้าองค์กรด้วย โดยตลาดดังกล่าวถือเป็นตลาดบลูโอเชียนที่มีคู่แข่งขันไม่มาก ซึ่งบริษัทจะมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปยังกลุ่มร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน ,การไฟฟ้า และการประปา สำหรับการพิมพ์ใบเสร็จชำระค่าสินค้าและบริการ
นายธีรวุธ กล่าวต่ออีกว่าส่วนเป้าหมายการเติบโตนั้นขณะนี้ยังไม่สิ้นสุดปีงบประมาณ 2552 (เริ่มเม.ย.52-มี.ค.53) อย่างไรก็ตามคาดการณ์ว่าจะมีตัวเลขการเติบโตประมาณ 15% ขณะที่ปีที่ผ่านมามีตัวเลขการเติบโตราว 5% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจเมื่อเทียบกับภาวะเศรษฐกิจ โดยตัวเลขล่าสุดเมื่อไตรมาส 3 ปีที่แล้วมีส่วนแบ่งตลาดเลเซอร์มัลติฟังก์ชัน 24% เป็นอันดับ 2 ในตลาด และมีส่วนแบ่งตลาดพรินเตอร์แบบพ่นหมึก หรืออิงก์เจ็ตมัลติฟังก์ชัน 30% เป็นอันดับ 1 ในตลาด
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,508 25-27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553