เอชพีส่งเครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่ลงตลาดใช้เทคโนโลยีหมึกพิมพ์ลาเทกซ์ครั้งแรกของโลก ไม่มีกลิ่น ไม่ไวไฟเป็นจุดขาย ตามนโยบาย 4 กลยุทธ์หลัก พร้อมขยายฐานตลาดสู่ธุรกิจร้านอาหารและการตกแต่งภายใน
นายสมชัย สูงสว่าง ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจภาพและการพิมพ์ บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) หรือเอชพี กล่าวว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจของเอชพีในไทยจะเน้น 4 กลยุทธ์คือ
1.นำเสนอเทคโนโลยีลาเทกซ์ซึ่งเป็นหมึกพิมพ์ที่ทำจากน้ำ ไม่มีกลิ่น ไม่ไวไฟ ขยายไปกับโปรดักต์ต่างๆ เพื่อขยายพอร์ตโฟลิโอ 2.ช่องทางการจัดจำหน่ายจะมีการอบรมให้คู่ค้าให้สามารถขยายสินค้าออกสู่ตลาดได้มากขึ้น 3.หาโลคัล เวนเดอร์ เพื่อเป็นพาร์ตเนอร์กับเอชพี 4.Go Green ซึ่งเป็นการสร้างสรรค์สินค้าให้รักษาสิ่งแวดล้อมตลอดไป
จากนโยบายดังกล่าวเอชพีจึงได้นำเครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่ที่ใช้เทคโนโลยีลาเทกซ์ออกสู่ตลาด ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตของลูกค้า และเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้าจากเดิมที่ใช้หมึกน้ำผสมน้ำมัน หรือหมึกโซลเวนต์ นอกจากนี้เอชพียังเห็นแนวโน้มของตลาดดิจิตอล กราฟิกมีการเติบโต เพราะมีการใช้งานในรูปแบบที่หลากหลายกว่าการเป็นสื่อโฆษณาแบบเดิมๆ โดยมีการประยุกต์ใช้งานเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์มากขึ้น และปัจจัยที่ทำให้ตลาดนี้โตมาจาก 1.มีความสะดวกสบาย 2.โลกดิจิตอล คอนเทนต์มีมากขึ้น เพราะมีการโพสต์ การใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ก 3.เทคโนโลยีที่รักษาสิ่งแวดล้อม ที่จะเป็นตัวช่วยในการขยายตลาด และ 4.สีสัน ที่มีความนิยมมากขึ้น ตามไลฟ์สไตล์
"สินค้าที่เรานำออกสู่ตลาดสร้างสรรค์งานได้ทั้งนอกอาคาร ในอาคาร ใช้งานได้นาน เข้าใจง่าย เพิ่มโปรดักต์ทิวิตีในการทำงาน เพราะมีสปีดเร็วกว่ารุ่นเก่า จึงตอบโจทย์เรื่องไลฟ์สไตล์ได้"
สำหรับกลุ่มเป้าหมายของผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ เอชพีมองไปที่กลุ่มธุรกิจร้านอาหารและการตกแต่งภายใน และตั้งเป้าไว้ว่ากลุ่มธุรกิจกราฟิก โซลูชัน บิซิเนสภายในปีนี้จะโตอีก 200%
นายสมชัยกล่าวว่า จากการศึกษาข้อมูลของเอชพีพบว่า ปี 52 ภาพรวมของตลาดเครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่มีอัตราการโตอยู่ที่ 9% เอชพีมีส่วนแบ่ง 80% ครอบคลุมเครื่องพิมพ์สำหรับงานเทคนิคและเครื่องพิมพ์สำหรับงานกราฟิก ทั้งนี้ จากข้อมูลการวิจัยของเอซีนีลเส็นในปี 52 จะเห็นว่า ตลาดสื่อโฆษณาในประเทศไทยมีมูลค่ารวมกว่า 89.1 พันล้านบาท แม้ว่าสื่อประเภทโทรทัศน์จะยังมีการใช้จ่ายสูงสุด
แต่การใช้จ่ายของสื่อที่เกี่ยวข้องกับงานพิมพ์ก็มีสัดส่วนถึง 30% แบ่งเป็นหนังสือพิมพ์ 16% นิตยสาร 6% สื่อกลางแจ้ง 4% สื่อขนส่งสาธารณะเช่น สื่อบนรถไฟฟ้า รถประจำทาง 2% และสื่อภายในอาคาร หรืออินสโตร์ 1%
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 พฤษภาคม 2553 10:43 น.