โดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์ 19 มีนาคม 2553 12:39 น.
*วงในตลาดพรินเตอร์วิเคราะห์ผู้ประกอบแบบเดิมๆ อาจ 'สูญพันธุ์' ได้
* ปัญหา 'ink tank' กระทบพรินเตอร์แบบเต็มๆ ต้องงัดกลยุทธ์ใหม่สู้
* ชี้ชัดแข่งขันสงครามราคา กำไรเครื่องไม่มีดิ่งเหวกันหมด
* จับตา 'เอชพี' เดินเกมการตลาดใหม่อย่างที่ค่ายอื่นยังไม่ได้ลงมือทำ
'ขณะนี้ต้องติดตามว่าผู้ประกอบการพรินเตอร์แต่ละแบรนด์จะอยู่ในตลาดนี้ได้อย่างไรในอนาคตถ้าหากยังไม่มีการปรับเปลี่ยนแนวทางการทำตลาด'
เป็นคำกล่าวของ สมชัย สูงสว่าง ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจภาพและการพิมพ์ บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด
ทั้งนี้หากมองภาพรวมของเศรษฐกิจในประเทศไทยในปีนี้มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีกว่าปีที่ผ่านมา โดยไอดีซีได้คาดการณ์การเติบโตของการใช้จ่าย ด้านอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รวมถึงแนวโน้มเทคโนโลยีสารสนเทศและการใช้งานของประเทศไทยในปี 2553 ว่าจะมีการเติบโตในอัตราร้อยละ 6.8 เมื่อเปรียบเทียบกับอัตราการเติบโตเพียงร้อยละ 1 ในปีที่ผ่านมา ซึ่งตัวเลขการเติบโตดังกล่าวชี้ให้เห็นว่ากำลังซื้อและการลงทุนเกี่ยวกับสินค้าไอทียังคงมีอยู่ โดยเฉพาะในภาคส่วนขององค์กรธุรกิจที่เห็นความสำคัญของการปรับปรุงโครงสร้างด้านไอที เพื่อเตรียมพร้อมรับมือการแข่งขันเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว
สำหรับตลาดเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท ในฐานะที่เอชพีเป็นผู้นำในตลาดนี้ มองว่าแนวโน้มของตลาดเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทจะมีการเติบโตในส่วนของการใช้งานแบบออลอินวันมากขึ้น ซึ่งการเติบโตที่สำคัญในส่วนนี้คือการเติบโตของตลาดไอทีในต่างจังหวัด โดยเอชพีมีสัดส่วนยอดขายระหว่างกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเป็น 65:35 จากสัดส่วนเดิม ที่ 75:25 ในปี 2551 ซึ่งหมายถึงการเติบโตร้อยละ 10 ในปีที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ Geographic Expansion ที่เอชพีได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในหัวเมืองใหญ่ๆ ที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว
'ปัจจุบันคู่ค้าในต่างจังหวัดของเอชพีมีความเข้มแข็งและมีการเติบโต ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดี ทำให้เอชพีถึงมองการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในต่างจังหวัดเป็นกลยุทธ์สำคัญประการหนึ่ง'
เอชพีให้ความสำคัญกับพื้นที่ที่เป็นยุทธศาสตร์และมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี มุ่งเน้นไปที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายของเอชพีที่มีศักยภาพในการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่เอชพีให้ความสำคัญ อาทิ กลุ่มธุรกิจโซโห ไมโครบิซ กลุ่มนักเรียน นักศึกษา โดยนำเสนอเครื่องพิมพ์ที่สามารถรองรับการทำงานได้อย่างครอบคลุมตามวัตถุประสงค์ การใช้งาน และคุ้มค่าเรื่องงานพิมพ์ทั้งคุณภาพและราคา ซึ่งในปีนี้ผลิตภัณฑ์ที่เอชพีใช้ เจาะตลาดจังหวัดเป็นการนำร่อง คือ HP Deskjet Ink Advantage
ในการทำตลาดต่างจังหวัดนั้น เอชพีได้มุ่งสร้าง Retail Branding ในจุดขายที่เป็นร้านค้ายุทธศาสตร์ โดยจะทำกิจกรรมการตลาด ณ จุดขาย แบบ Last 3 Feet (L3F) เพื่อสร้างโอกาสทางการขาย ณ ร้านค้านั้นๆ โดยเอชพีประเดิมร่วมมือกับกับ บริษัท ขอนแก่น ไทยแลนด์ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไอทีรายใหญ่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดำเนินกิจกรรมการตลาดดังกล่าวเป็นแห่งแรก ตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน 2552 กุมภาพันธ์ 2553 ซึ่งได้ผลตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค เห็นได้จากยอดการจัดจำหน่ายเครื่องพิมพ์ในจังหวัดขอนแก่นมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 20% และวางแผนต่อยอดกลยุทธ์ดังกล่าวไปยังหัวเมืองต่างๆ ได้แก่ กาญจนบุรี ภูเก็ต และเชียงใหม่ ในลำดับต่อไป
สำหรับโซลูชั่นงานพิมพ์ HP Deskjet Ink Advantage ที่นำเสนอสู่ช่องทางในต่างจังหวัดนั้น เป็นโซลูชั่นงานพิมพ์ราคาประหยัดที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายการพิมพ์ลงถึงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับการใช้เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทของแบรนด์อื่นๆ HP Deskjet Ink Advantage ทำให้ลูกค้าสามารถพิมพ์งานต่างๆ ได้ในราคาที่ถูกกว่าการใช้เครื่องพิมพ์รุ่นอื่นๆ โดยมีค่าใช้จ่ายต่อแผ่นอยู่ที่ 0.53 สตางค์สำหรับเอกสารขาวดำ และ 1.28 สตางค์สำหรับเอกสารสี
'โซลูชั่นการพิมพ์นี้สร้างการพิมพ์ที่วางใจได้ สมรรถนะสูง และประหยัดค่าใช้จ่าย โดยผู้ใช้สามารถลดค่าใช้จ่าย การพิมพ์ได้มากถึงร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับระบบการพิมพ์แบบสี่สีจาก ink tank เป็นการแก้ปัญหาการนำพรินเตอร์ไปติด ink tank ด้วย'
จากความสำเร็จของกิจกรรมการตลาดที่เกิดขึ้น นอกจากโซลูชั่นและผลิตภัณฑ์ของเอชพีตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคแล้ว ยังเป็นการเชื่อมพันธมิตรต่างจังหวัดให้กับเอชพีในการขยายฐานไปตลาดต่างจังหวัดได้มากขึ้น ทั้งนี้เอชพีจะร่วมมือกับคู่ค้าในทุกๆ ที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อศึกษาแนวทางการทำตลาดในพื้นที่ใหม่ๆ ที่มีโอกาสเพิ่มขึ้นด้วย เพื่อการเติบโตในระยะยาว
เกมการตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปในตลาดพรินเตอร์ของเอชพี น่าจะทำให้ผู้ประกอบการรายอื่นๆ หันมาปรับกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากทุกวันนี้การขายเครื่องพรินเตอร์ทุกแบรนด์แทบจะไม่มีกำไร จากการทำสงครามราคา ประกอบกับปัญหา ink tank หากผู้ผลิตพรินเตอร์ไม่มีการปรับตัว และไม่สามารถสร้างรายได้และผลกำไรให้กับตัวแทนจำหน่ายได้ แบรนด์นั้นอาจจะอยู่ในตลาดพรินเตอร์ไทยนี้ได้อีกไม่นาน